“เป็นหนี้” คือคำง่ายๆ แต่ความหมายสุดลึกซึ้งของชีวิตพวกเราหลายคน หนี้สินที่ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของการจำนอง สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน เงินกู้เรียน หรือยอดคงเหลือในบัตรเครดิต เพื่อนๆ รู้ไหมว่า การจัดการหนี้ให้เหมาะสมก็สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ เช่น การซื้อบ้านหรือการลงทุนในธุรกิจ อย่างไรก็ตาม หนี้สินอาจเป็นภาระที่ทำให้หลายคนเกิดความเครียด วิตกกังวล และรู้สึกไม่มั่นคงทางการเงิน ในบทความนี้ฟินนี่จะพามาดูข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการจัดการหนี้ที่มีประสิทธิภาพกัน 

ข้อดี-ข้อเสียของการ เป็นหนี้ 

ข้อดี

1. เป็นเงินทุนเพื่อซื้อสินค้าหรือลงทุน: หนี้สามารถทำให้เราสามารถซื้อบ้าน เริ่มต้นธุรกิจ หรือลงทุนในการศึกษาที่เราอาจจะสามารถชำระคืนในระยะยาวได้  
2.การสร้างเครดิต: หากเราใช้หนี้อย่างมีความรับผิดชอบและมีวินัย สิ่งนี้ก็สามารถช่วยให้เราสร้างประวัติเครดิตที่แข็งแกร่งและปรับปรุงคะแนนเครดิตของเรา ทำให้ง่ายต่อการได้รับการอนุมัติสินเชื่อในอนาคต และยังทำให้ได้อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่ดีขึ้นอีกด้วย

ข้อเสีย

1. อัตราดอกเบี้ยสูง: หนึ่งในข้อเสียที่ใหญ่มากๆ ของหนี้คือ ต้นทุนดอกเบี้ย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทของหนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก ก็อาจทำให้ผู้กู้ยืมนั้นยากต่อการจ่ายหนี้และอาจนำไปสู่วงจรของการกู้ยืมนอกระบบ และการจ่ายคืนช้าก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาการทวงหนี้นอกระบบแบบไม่จบไม่สิ้นได้
2. ค่าธรรมเนียม: นอกจากดอกเบี้ยแล้ว หนี้หลายประเภทยังมีค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมการจ่ายคืนล่าช้าหรือค่าธรรมเนียมการโอนยอดคงเหลือ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้สามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำให้ยากต่อการชำระหนี้ 
3. ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้หรือล้มละลาย: หากเราไม่สามารถชำระหนี้ได้ เราอาจต้องเผชิญกับผลกระทบที่หลากหลาย เช่น ความเสียหายต่อคะแนนเครดิตของคุณ การระงับค่าจ้าง หรือแม้แต่การยึดทรัพย์สินคืน ในบางกรณี หนี้สินอาจนำไปสู่การล้มละลาย ซึ่งอาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพทางการเงินของเราได้

ดังนั้น การจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีการวางแผนและจัดทำงบประมาณอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจข้อดีและข้อเสียของหนี้ประเภทต่างๆ และเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ทางการเงินของเรา การรู้ข้อมูลและการตัดสินใจทางการเงินที่รอบคอบจะช่วยให้เราใช้หนี้ให้เป็นประโยชน์และหลีกเลี่ยงข้อเสียของหนี้ที่มากเกินไปได้ 

3 ข้อควรรู้ ก่อนจะกู้เงิน  

ฟินนี่ขอพามาต่อกับ 3 ข้อควรรู้ก่อนที่เราจะกู้เงิน เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและเหมาะสมมากขึ้น

1. คะแนนเครดิต: 
หนี้จะส่งผลต่อการเงินส่วนบุคคลคือคะแนนเครดิต ซึ่งคะแนนเครดิตของเราเป็นตัวเลขที่แสดงความน่าเชื่อถือของตัวเรา และผู้ให้กู้จะใช้มันเพื่อพิจารณาว่าจะอนุมัติใบสมัครสินเชื่อหรือไม่ และอัตราดอกเบี้ยที่จะเรียกเก็บ เมื่อเราได้รับภาระหนี้ โดยพื้นฐานแล้วเราจะต้องจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย หากเราชำระเงินตรงเวลาและรักษายอดคงเหลือให้ต่ำ เราจะสามารถสร้างประวัติเครดิตที่แข็งแกร่งและปรับปรุงคะแนนเครดิตของเราได้ อย่างไรก็ตาม หากเราพลาดการชำระเงินหรือมีหนี้สินมากเกินไป คะแนนเครดิตของเราอาจได้รับผลกระทบ ทำให้การขออนุมัติสินเชื่อในอนาคตทำได้ยากขึ้น 

2. อัตราดอกเบี้ย:
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่เพื่อนๆ ต้องพิจารณาเมื่อเป็นหนี้คือ อัตราดอกเบี้ย ซึ่งอัตราดอกเบี้ยอาจแตกต่างกันแล้วแต่ประเภท ตั้งแต่อัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับสินเชื่อที่มีหลักประกัน เช่น การจำนอง ไปจนถึงอัตราดอกเบี้ยสูงสำหรับสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน เช่น บัตรเครดิต ยิ่งอัตราดอกเบี้ยสูง หนี้ก็จะยิ่งแพงขึ้น และใช้เวลานานในการชำระหนี้ ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรจะต้องหาอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุด เมื่อเรากำลังพิจารณาที่จะก่อหนี้ใหม่ 

3. ความสามารถในการกู้ยืม: 
ประการสุดท้าย หนี้สินอาจส่งผลต่อความสามารถในการกู้ยืมของเรา หรือจำนวนเงินที่เราสามารถยืมได้ เมื่อเราสมัครขอสินเชื่อ ผู้ให้กู้จะพิจารณารายได้ คะแนนเครดิต และหนี้ที่มีอยู่ของเรา เพื่อพิจารณาว่าผู้กู้จะยินดีให้เรายืมเงินจำนวนเท่าไหร่ ถ้าเรามีหนี้จำนวนมากหรือมีคะแนนเครดิตต่ำ เราก็อาจจะไม่สามารถกู้ยืมเงินได้มากเท่าที่เราต้องการหรืออาจถูกเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ก็อาจจะไปจำกัดความสามารถของเพื่อนๆ ในการซื้อสินค้าหรือลงทุนในอนาคตของเราได้ 

ฟินนี่ขอบอกเลยว่าการจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาการเงินของเราให้แข็งแกร่ง ซึ่งหมายถึงการหลีกเลี่ยงเงินกู้ดอกเบี้ยสูง นอกจากนี้ยังหมายถึงการที่เราต้องคำนึงถึงความสามารถในการกู้ยืมของตัวเอง และไม่เป็นหนี้เกินกว่าที่เราจะจ่ายคืนได้ตามความเป็นจริง การมีหนี้สินอย่างชาญฉลาดและดำเนินการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถทำให้เราหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบในระยะยาวของหนี้ที่มีต่อการเงินส่วนตัว และทำให้มีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น 

วิธีการจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟินนี่เลยขอเอาเคล็ดลับและวิธีที่ใช้ได้จริงในการจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพให้เพื่อนๆ ลองอ่านกันดูเผื่อจะเป็นประโยชน์กับทุกคนน้า 

1. สร้างงบประมาณ: 
สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่เพื่อนๆ สามารถทำได้เพื่อจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือ การทำงบประมาณ โดยงบประมาณจะช่วยให้เราสามารถติดตามรายรับและรายจ่าย และช่วยให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ใช้จ่ายเกินกว่าที่เราสามารถจ่ายได้ การจัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายและหาวิธีลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จะทำให้เรามีเงินเหลือมากขึ้นเพื่อนำไปใช้จ่ายหนี้ 

2. จัดลำดับความสำคัญของหนี้ดอกเบี้ยสูง: 
เทคนิคสำคัญอีกประการหนึ่งในการจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือ การจัดลำดับความสำคัญของหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง หนี้เหล่านี้ติดหนี้ที่ทำให้เราเสียดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมมากที่สุด และเป็นหนี้ที่เราควรต้องชำระให้หมดโดยเร็วที่สุด โดยเราควรมุ่งเน้นไปที่การชำระกับหนี้เหล่านี้ก่อน ซึ่งจะช่วยให้เราประหยัดเงินได้ในระยะยาว และทำให้มีเงินทุนมากขึ้นเพื่อนำไปใช้หนี้อื่นๆ 

3. หลีกเลี่ยงการกู้ยืมที่ไม่จำเป็น: 
ฟินนี่อยากบอกว่าสิ่งสำคัญ คือ เราต้องหลีกเลี่ยงการยืมโดยไม่จำเป็นทุกครั้งที่ทำได้ ซึ่งหมายถึงการที่เราต้องคำนึงถึงความสามารถในการกู้ยืมของตัวเอง และไม่เป็นหนี้เกินกว่าที่เราจะจ่ายคืนตามความเป็นจริงได้ นอกจากนี้ยังหมายถึงการหลีกเลี่ยงเงินกู้ดอกเบี้ยสูงหรือการกู้นอกระบบซึ่งอาจติดกับดักเราในวงจรของหนี้สินต่อไปได้ 

4. เน้นความรู้ทางการเงินและการศึกษา: 
สุดท้าย ฟินนี่อยากขอเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีความรู้ทางการเงิน การมีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการตัดสินใจอย่างรอบรู้เกี่ยวกับการเงิน สามารถช่วยให้เรามีภูมิคุ้มกัน และหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบของหนี้สินและอาจทำให้เราไปถึงเป้าหมายความมั่นคงทางการเงินมากขึ้นได้ 

และนี่ก็เป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ฟินนี่เอามาฝากเพื่อนๆ อย่าลืมน้า การจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเกี่ยวกับการระมัดระวังการใช้จ่ายของตัวเราเอง หลีกเลี่ยงการกู้ยืมที่ไม่จำเป็น และถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ต้องยืมแหล่งให้เงินกู้ที่ถูกกฎหมาย อย่างเช่น มายืมกับ แอปกู้เงิน FINNIX ซึ่งเป็นแอปฟลิเคชันของบริษัทร่วมทุนภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นแอปถูกกฎหมาย กู้เงินได้จริง ดอกเบี้ยต่ำ ยืมเงินด่วน ทันใจ อนุมัติไวภายใน 5 นาที โอนเข้าบัญชี สะดวกและง่ายมากๆ เรามาดูกันว่าจะขอกู้เงินออนไลน์ฟินนิกซ์ติดปีกต้องใช้อะไรบ้าง  

1. บัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ ไม่ต้องใช้สำเนา 
2. โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่มีอินเทอร์เน็ต 
3. บัญชีเอกสารการเดินบัญชีย้อนหลังหลัก (Statement) กับธนาคารใดก็ได้ 
4. มีบัญชีที่ผูกกับเลขพร้อมเพย์เพื่อให้ฟินนี่โอนเงินไปให้ 

เพียงเท่านี้ เพื่อนๆ ก็สามารถยืมเงินออนไลน์กับฟินนิกซ์ แอปเงินกู้คู่คนทำมาหากินถูกกฎหมายได้แล้วน้า