อย่างที่เรารู้กันนะว่า การวางแผนทางการกู้เงินเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการการเงินส่วนบุคคลและการบรรลุเป้าหมายทางการเงินระยะยาวของเรา เมื่อเราก้าวผ่านช่วงต่างๆ ของชีวิต ความต้องการและลำดับความสำคัญทางการเงินของเราก็จะเปลี่ยนไป ซึ่งจำเป็นต้องปรับแผนทางการเงินให้เหมาะสม ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเพิ่งเริ่มต้นอาชีพ พึ่งแต่งงาน สร้างครอบครัว หรือวัยกลางคน สิ่งสำคัญคือต้องมีการวางแผนทางการเงินที่ครอบคลุมโดยคำนึงถึงสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบันและเป้าหมายในอนาคต วันนี้ฟินนี่จะพาทุกคนไปดูการวางแผนทางการเงินสำหรับช่วงต่างๆ ของชีวิต และเทคนิคที่จะช่วยให้เพื่อนๆ บรรลุเป้าหมายทางการเงินในแต่ละช่วง
วัยเริ่มทำงาน
ฟินนี่เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกว่า ช่วงเวลาในการเริ่มต้นทำงานเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นเพราะเราจะรู้สึกถึงความเป็นอิสระ รู้สึกถึงการมีรายรับหรือรายได้ แต่ช่วงเวลานี้เองก็เป็นเวลาที่สำคัญสำหรับการวางแผนทางการเงินเช่นกัน และนี่จะเป็นเทคนิคที่ฟินนี่เอามาฝากสำหรับต่อเมื่อเพื่อนๆ เริ่มต้นทำงาน:
1.สร้างงบประมาณ: ฟินนี่ขอเริ่มต้นแนะนำให้เพื่อนๆ สร้างงบประมาณเพื่อช่วยในการจัดการรายได้และค่าใช้จ่าย ทำรายการค่าใช้จ่ายรายเดือนทั้งหมดของเรา รวมถึงค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง อาหาร และความบันเทิง แล้วเปรียบเทียบกับรายได้ต่อเดือนของเรา ดูว่ามีจุดไหนที่เพื่อนๆ สามารถลดและจัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นได้
2.สร้างกองทุนเงินฉุกเฉิน: แบ่งเงินมาเป็นกองทุนเงินฉุกเฉินเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น ค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล หรือโดนให้ออกจากงานกะทันหัน เราอาจจะเริ่มตั้งเป้าที่จะเก็บออมให้เพียงพอสำหรับค่าครองชีพสามถึงหกเดือนเป็นอย่างน้อยในกรณีที่ตกงานหรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ด้วย เพราะชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน การมีเงินสำรองไว้ จะทำให้เรารู้สึกสบายใจ และมีเวลาในการจัดการสิ่งที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด โดยไม่ไปเบียดเบียนเงินใช้จ่ายประจำวัน
3.จัดการหนี้: หากเพื่อนๆ มีหนี้จากการกู้ยืมเพื่อการศึกษาหรือหนี้อื่นๆ ฟินนี่แนะนำว่าเพื่อนๆ ควรวางแผนเพื่อชำระคืนให้เร็วที่สุด โดยเพื่อนๆ อาจจะพิจารณาการรวมหนี้เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยหรือชำระเงินเพิ่มเติมเพื่อชำระให้หมดเร็วขึ้น
4.เริ่มออมเพื่อการเกษียณ: หลายคนจะมองว่าการออมตั้งแต่เริ่มทำงานนั้นเร็วเกินไป ยังมีเวลาอีกเยอะในการออม แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรเร็วเกินไปที่จะเริ่มออมเพื่อการเกษียณ ยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดีน้า ฟินนี่แนะนำว่าเราอาจจะเริ่มจากการตั้งเป้าว่าเราต้องการเกษียณตอนอายุเท่าไหร่ เพื่อที่จะพิจารณาต่อได้ว่า เราต้องการเงินเท่าไหร่ในการเกษียณ และปรับวางแผนการทำงานและการเงินของเราเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายของเราที่ตั้งไว้
5.สร้างเครดิต: การสร้างคะแนนเครดิตที่ดีตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยให้เพื่อนๆ มีสิทธิ์สามารถกู้เงิน เข้าถึงผลิตภัณฑ์ บัตรเครดิต และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ได้ในภายหลัง ฟินนี่แนะนำว่าเราควรใช้เครดิตอย่างมีความรับผิดชอบโดยชำระค่าใช้จ่ายให้ตรงเวลาและรักษาการใช้เครดิตให้ต่ำเพื่อที่อนาคตเราอาจจะได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าจากการที่เรารักษาเครดิตของเรา
6.ตั้งเป้าหมายทางการเงิน: ระบุเป้าหมายทางการเงินระยะสั้นและระยะยาวของเพื่อนๆ เช่น การออมเงินเพื่อดาวน์บ้าน การเริ่มต้นธุรกิจ หรือการเดินทาง การกำหนดเป้าหมายที่เป็นจริงและสร้างแผนการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายจะช่วยให้เพื่อนๆ รู้ว่าปัจจุบันสิ่งที่เราทำนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายเราหรือไม่ หากไม่ เราก็อาจจะได้คิดปรับเปลี่ยนเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายของเราได้ ฟินนี่มองว่าสิ่งนี้เหมือนแผนที่ ที่จะพาเราไปในที่ที่เราต้องการได้น้า
และที่สำคัญการที่เราจะสามารถสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคงและเตรียมพร้อมสำหรับความสำเร็จในระยะยาวได้ เราต้องอย่าลืมทบทวนแผนการเงินของเราเป็นประจำและปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นตามการเปลี่ยนแปลงของรายได้หรือค่าใช้จ่ายของเราด้วยน้า
วัยเริ่มแต่งงาน
การแต่งงานเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตที่ต้องวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ หลายคนเริ่มมีปัญหาเมื่อมาถึงช่วงวัยนี้ เรามาดูกันว่าเมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ เราควรพิจารณาอะไรบ้าง ถ้าต้องเตรียมตัวแต่งงาน:
1.สร้างงบประมาณร่วมกัน: เพื่อนๆ และคนรักควรมีการพูดคุยและวางแผนเพื่อสร้างงบประมาณที่สะท้อนถึงรายได้และค่าใช้จ่ายร่วมกันของเราทั้งสอง ระบุค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ที่อยู่อาศัย ค่าสาธารณูปโภค และของจำเป็นต่างๆ และจัดสรรเงินสำหรับการใช้จ่ายตามที่เห็นสมควร
2.รวมหนี้: หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีหนี้ ฟินนี่แนะนำให้พิจารณารวมหนี้ดูว่าคู่ของเรามีหนี้รวมกันเท่าไหร่ เพื่อจะได้ช่วยกันหาวิธีการชำระเงินของเราให้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ที่สำคัญเพื่อนๆ และคนรักควรวางแผนปลดหนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของครอบครัวในระยะยาว
3.หารือเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงิน: หารือเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงินของเรากับคนรัก วางแผนเพื่อหาทางบรรลุเป้าหมายร่วมกัน โดยฟินนี่แนะนำให้ระบุเป้าหมายทางการเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การออมเพื่อดาวน์บ้าน ปลดหนี้ หรือสร้างครอบครัว
4.ตัดสินใจเลือกบัญชีร่วมหรือแยก: ตัดสินใจว่าเราต้องการเปิดบัญชีร่วมสำหรับค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกันหรือแยกบัญชี เพื่อนๆ กับคนรัก ต้องพิจารณาข้อดีและข้อเสียของแต่ละตัวเลือกและตัดสินใจว่าตัวเลือกไหนเหมาะสมที่สุดสำหรับคู่เรา เพราะแต่ละคู่ก็มีปัจจัยและความต้องการที่แตกต่างกัน ฉะนั้นการพูดคุยกับคู่ของเราและตัดสินใจร่วมกันจะดีที่สุดต่อเราน้า
5.เช็กความคุ้มครองของประกัน: เช็กความคุ้มครองของประกัน ซึ่งรวมถึงประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และประกันทุพพลภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเรากับคนรักได้รับการคุ้มครองที่เพียงพอ รวมถึงพิจารณาเพิ่มคู่สมรสของเราเป็นผู้รับผลประโยชน์จากนโยบายที่มีอยู่
6.ตั้งเงินกองทุนฉุกเฉิน: ร่วมกันตั้งก้อนเงินฉุกเฉินเผื่อค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ ซ่อมบ้าน ฯลฯ และตั้งเป้าที่จะออมให้เพียงพอสำหรับค่าครองชีพสามถึงหกเดือนเป็นอย่างน้อย
7.วางแผนเอกสารอื่นส่วนตัว: วางแผนเอกสารส่วนตัวต่างๆ เช่น พินัยกรรม หรือหนังสือมอบอำนาจเพื่อให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของเราได้รับการคุ้มครองและเป็นไปตามความต้องการของเรา
ฟินนี่อยากให้เพื่อนๆ คิดไว้เสมอว่าการสื่อสารอย่างเปิดเผยเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนทางการเงินที่ประสบความสำเร็จในฐานะคู่รัก เราต้องหมั่นเช็กให้แน่ใจว่าได้มีการพูดคุยหารือเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงินและข้อกังวลอย่างสม่ำเสมอ และร่วมกันคิดเพื่อตัดสินใจอย่างรอบรู้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ของเราและคนรัก
วัยสร้างครอบครัว
แม้ว่าการเริ่มต้นครอบครัวเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและดูเป็นการเติมเต็ม แต่ก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบทางการเงินที่เพิ่มขึ้นด้วย และนี่คือสิ่งที่เราควรพิจารณาเมื่อเราเตรียมตัวเป็นพ่อแม่:
1.เช็กงบประมาณของเรา: เช็กงบประมาณและหาดูว่ามีส่วนไหนไหมที่เราสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่มาพร้อมกับการมีลูก รวมถึงพิจารณาค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก อุปกรณ์สำหรับเด็กอ่อน และสิ่งจำเป็นอื่นๆ
2.สร้างกองทุนฉุกเฉินของครอบครัว: สิ่งสำคัญคือเพื่อนๆ ควรมีกองทุนฉุกเฉินเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาลหรือการตกงาน อย่างที่ฟินนี่แนะนำไปว่าเราควรตั้งเป้าที่จะออมให้เพียงพอสำหรับค่าครองชีพอย่างน้อยหกเดือน
3.ตรวจสอบความคุ้มครองของประกัน: ตรวจสอบความคุ้มครองของประกันของเรา ซึ่งรวมถึงประกันสุขภาพ ชีวิต และประกันทุพพลภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีความคุ้มครองที่เพียงพอสำหรับครอบครัวที่กำลังเติบโตของเรา รวมถึงเราต้องพิจารณาการเพิ่มลูกของเราเป็นผู้รับผลประโยชน์จากที่มีอยู่ด้วย
4.วางแผนการดูแลเด็ก: แน่นอนว่าเมื่อครอบครัวเราขยาย สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องเตรียมคือ ศึกษาข้อมูลค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก และวางแผนสำหรับครอบคลุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ พิจารณาตัวเลือกต่างๆ เช่น รับเลี้ยงเด็ก บริการพี่เลี้ยงเด็ก หรือการดูแลครอบครัว โดยเพื่อนๆ ควรพิจารณาและพูดคุยกับคนรักของเราไปด้วยเพื่อหาเป้าหมายร่วมกัน เพื่อป้องกันความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในอนาคต
5.เก็บตังเพื่อทุนการศึกษาลูก: เริ่มออมเพื่อเก็บเป็นทุนการศึกษาของลูกของเราโดยเร็วที่สุด โดยพิจารณาเรื่องเงินของครอบครัวเราและทุนการศึกษาต่างๆ เพื่อช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายทางการศึกษาในอนาคตของลูก
6.วางแผนเอกสารส่วนตัว: วางแผนเอกสารส่วนตัว เช่น พินัยกรรม หรือหนังสือมอบอำนาจทรัพย์สินต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของเราจะได้รับการปกป้อง และลูกๆ จะได้รับการดูแลในกรณีที่เราเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
7.ปรับแผนการเกษียณอายุ: การมีลูกอาจทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนแผนการเกษียณอายุของเรา ฉะนั้น เราควรพิจารณาค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเลี้ยงดูครอบครัวและปรับเงินสมทบเพื่อการเกษียณอายุของเราให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
ฟินนี่อยากให้ทุกคนตระหนักไว้ว่าการเริ่มต้นครอบครัวเป็นภาระผูกพันทางการเงินที่สำคัญ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้าและการตัดสินใจทางการเงินอย่างรอบคอบจะช่วยให้เรามีอนาคตที่มั่นคงสำหรับครอบครัวของเพื่อนๆ
วัยกลางคน
ช่วงวัยกลางคนเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการวางแผนทางการเงิน เนื่องจากเราอาจอยู่ในจุดสูงสุดของศักยภาพในการสร้างรายได้และใกล้เกษียณ และนี่คือสิ่งที่เพื่อนๆ ควรคำนึงถึง:
1.ทบทวนและปรับแผนการเกษียณอายุ: ทบทวนแผนการเกษียณอายุและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราอยู่ในแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการเกษียณอายุที่เราตั้งไว้หรือไม่ เพื่อที่จะได้เห็นว่าเราขาดหรือต้องเพิ่มเติมตรงไหนเพื่อให้เราไปถึงเป้าหมายของเรา
2.จัดการหนี้: หากเรากู้เงินมีหนี้สะสม เช่น ยอดบัตรเครดิตหรือสินเชื่อคงค้าง ให้วางแผนที่จะชำระให้หมดโดยเร็วที่สุด รวมถึงควรพิจารณาการรวมหนี้เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยและชำระเงินกู้เพิ่มเติมเพื่อลดยอดคงเหลือของเพื่อนๆ ให้เร็วขึ้น
3.เช็กความคุ้มครองการประกันของคุณ: ตรวจสอบความคุ้มครองการประกันของคุณ ที่รวมถึงประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และประกันทุพพลภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้รับความคุ้มครองที่เพียงพอ นอกจากนี้เรายังควรพิจารณาเพิ่มความคุ้มครองหากจำเป็น เนื่องจากรายได้และอายุที่เพิ่มขึ้นของเรา ทำให้เราควรพิจารณาเพิ่มเติมเพื่อให้ความคุ้มครองนี้เหมาะสมกับแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาวของเรา
4.พิจารณาประกันการดูแลระยะยาว: พิจารณาซื้อประกันการดูแลระยะยาวเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาว ในกรณีที่เราหรือคู่สมรสอาจจำเป็นต้องใช้ในอนาคต
5.วางแผนสำหรับค่าใช้จ่ายของลูก: หากเพื่อนๆ มีลูก ควรวางแผนสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเก็บเงินไว้เพื่อเป็นทุกการศึกษาให้ลูกต่อไป รวมถึงเช็กทุนการศึกษาต่างๆ เพื่อช่วยให้เราวางแผนจ่ายค่าใช้จ่ายทางการศึกษาในอนาคตได้
6.ประเมินพอร์ตการลงทุน: ประเมินพอร์ตการลงทุนของเรา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุน เพื่อนๆ อาจลองพิจารณาปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อให้แน่ใจว่าพอร์ตโฟลิโอเรามีความหลากหลายและเหมาะสมกับช่วงชีวิตของเรา
7.วางแผนเอกสารส่วนตัว: ตรวจสอบเอกสารส่วนตัว เช่น พินัยกรรม หรือหนังสือมอบอำนาจต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของเราจะได้รับการคุ้มครองและแจกจ่ายตามความประสงค์ของเราในกรณีที่เราเสียชีวิต
เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ เพื่อนๆ ก็จะมั่นใจได้ว่าเราอยู่บนเส้นทางที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงินและมีความสุขกับการเกษียณอย่างสบาย แต่อย่าลืมทบทวนแผนการเงินของเราเป็นประจำและปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นตามการเปลี่ยนแปลงของรายได้หรือค่าใช้จ่ายของเราด้วยน้า
สุดท้าย…
ฟินนี่แนะนำว่าเราควรมีแผนการและเป้าหมายในแต่ละช่วงวัยของเรา เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เราปรับแผนการเงินและการใช้ชีวิตของเราให้เหมาะสมกับเป้าหมายเราได้ และช่วยป้องกันเหตุฉุกเฉินทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม หากตอนนี้เพื่อนๆ มีแผนต้องการหาทุนทำมาหากิน เปิดร้าน หรือใช้จ่ายเพื่อต่อยอดธุรกิจ แต่ไม่อยากไปติดหนี้นอกระบบ ฟินนี่ก็ขอแนะนำแอปฟินนิกซ์ แอปเงินกู้คู่คนทำมาหากิน ถูกกฎหมาย ที่สมัครง่าย และเข้าใจคนทำมาหากิน ซึ่งเพื่อนๆ สามารถสมัครง่ายๆ ผ่านแอปมือถือ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที รู้ผลการอนุมัติทันที ไม่เสี่ยงต้องโดนหลอกจากแอปกู้นอกระบบ โหลดเลย