ในยุคข้าวยากหมากแพง รายได้ไม่แน่นอน หนี้สินก็ยังต้องจ่าย ทำให้หลายคน โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้า, อาชีพอิสระ, และมนุษย์เงินเดือน เจอปัญหาหนี้สินรุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นหนี้บ้าน, หนี้รถ, หรือหนี้บัตร โครงการ “คุณสู้เราช่วย” จากธนาคารแห่งประเทศไทย จึงเป็นเหมือนทางออกในการปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยให้คนที่ยังสู้ไหว ได้มีโอกาสไปต่อ
โครงการ “คุณสู้เราช่วย” คืออะไร?
“คุณสู้เราช่วย” เป็นโครงการจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อช่วยลูกหนี้รายย่อยและ SMEs ที่มีปัญหาหนี้สิน ให้กลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง โดยมีมาตรการช่วยเหลือหลัก ๆ 2 แบบ คือ “จ่ายตรง คงทรัพย์” ช่วยคนที่อยากรักษาบ้าน, รถ, หรือทรัพย์สินไว้ และ “จ่าย ปิด จบ” ช่วยคนที่อยากปิดหนี้ไว
มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์”
(สำหรับลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ที่เข้าร่วมโครงการ)
มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีหนี้บ้าน หนี้รถ หรือหนี้ธุรกิจขนาดเล็ก ที่ต้องการรักษาทรัพย์สินไว้ โดยธนาคารจะช่วยปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ให้จ่ายค่างวดน้อยลง และพักการจ่ายดอกเบี้ยไว้เป็นเวลา 3 ปีเต็ม ซึ่งค่างวดที่จ่ายในช่วงนี้จะถูกนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด และถ้าลูกหนี้สามารถจ่ายตรงตามแผนครบ 3 ปี ดอกเบี้ยที่พักไว้จะถูกยกเว้นทั้งหมด ทำให้สามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่สะสมไว้เลย.
“จ่ายตรง คงทรัพย์” ช่วยเหลือลูกหนี้อย่างไร?
มาตรการนี้จะช่วยลดค่างวด เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยลูกหนี้จะต้องจ่ายค่างวดแบบขั้นบันได (50% ในปีที่ 1, 70% ในปีที่ 2, 90% ในปีที่ 3 ของค่างวดเดิม) และพักดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี และหากลูกหนี้ทำตามเงื่อนไขได้ครบถ้วนและชำระหนี้ตามโครงการได้ครบ 3 ปี ดอกเบี้ยที่พักไว้ทั้งหมดจะถูกยกให้ ทั้งนี้ ลูกหนี้สามารถจ่ายมากกว่าค่างวดขั้นต่ำที่กำหนดไว้ เพื่อให้เงินต้นลดลงและปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
ใครเข้าร่วมมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” ได้บ้าง?
อ้างอิงจากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ที่สามารถสมัครเข้าร่วมมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์”ได้ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:
(1) มีวงเงินสินเชื่อรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกินที่กำหนด โดยพิจารณาแยกวงเงินในสัญญา (ต่อสถาบันการเงิน) ตามประเภทสินเชื่อ ดังนี้
- สินเชื่อบ้าน / บ้านแลกเงิน (Home for cash) วงเงินรวมไม่เกิน 5 ล้านบาท
- สินเชื่อเช่าซื้อ / จำนำทะเบียนรถยนต์ วงเงินรวมไม่เกิน 8 แสนบาท
- สินเชื่อเช่าซื้อ / จำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ วงเงินรวมไม่เกิน 5 หมื่นบาท
- สินเชื่อธุรกิจ SMEs วงเงินรวมไม่เกิน 5 ล้านบาท
*กรณีหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต หากมีหนี้บ้านหรือรถที่เข้าเงื่อนไขมาตรการข้างต้น สามารถพิจารณาเข้ามาตรการรวมหนี้ได้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่เจ้าหนี้รับได้ โดยวงเงินรวมต้องไม่เกินตามที่กำหนดไว้ (ยกเว้นการรวมหนี้กับสินเชื่อบ้านของ ธอส.)
(2) สินเชื่อมีการทำสัญญาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567
(3) มีสถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
(3.1) หนี้ที่ค้างชำระมากกว่า 30 วัน จนถึง 365 วัน (นับจากวันครบกำหนดชำระ)
(3.2) เคยปรับโครงสร้างหนี้ (ปรับหนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 65) และเคยมีวันค้างชำระเกิน 30 วัน (นับจากวันครบกำหนดชำระ) แต่ปัจจุบันต้องไม่ค้างชำระหรือค้างไม่เกิน 30 วัน
เงื่อนไขมาตรการ
อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย มาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” มีเงื่อนไขสำคัญที่ผู้เข้าร่วมต้องปฏิบัติตาม ดังนี้:
1. ลูกหนี้จะไม่สามารถทำสัญญาสินเชื่อเพิ่มเติมได้ภายในระยะเวลา 12 เดือนแรกหลังจากเข้าร่วมมาตรการ ยกเว้นในกรณีที่เป็นสินเชื่อธุรกิจ SMEs ซึ่งมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง ทั้งนี้ เจ้าหนี้สามารถพิจารณาให้สินเชื่อเพิ่มเติมได้ โดยต้องประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้อย่างเหมาะสม
2. ข้อมูลของลูกหนี้จะถูกบันทึกในระบบของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) ว่าได้เข้าร่วมมาตรการ
3. หากลูกหนี้ไม่สามารถชำระค่างวดขั้นต่ำตามที่กำหนด หรือไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่น ๆ ของมาตรการได้ เช่น การก่อหนี้ใหม่ภายในระยะเวลา 12 เดือน ลูกหนี้จะต้องออกจากมาตรการ และต้องชำระดอกเบี้ยที่ได้รับการพักชำระไว้ทั้งหมด
4. ในกรณีที่สัญญาสินเชื่อมีผู้ค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันจะต้องให้ความยินยอมและลงนามในสัญญาค้ำประกันฉบับใหม่
มาตรการ “จ่าย ปิด จบ”
(สำหรับลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) และ ผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ที่เข้าร่วมโครงการ)
สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะเป็นหนี้เสียและมียอดหนี้ไม่สูง จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ในรูปแบบที่ผ่อนปรน เพื่อให้สามารถชำระหนี้และปิดบัญชีได้เร็วขึ้น พร้อมเริ่มต้นทางการเงินใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ ลูกหนี้สามารถเลือกชำระหนี้บางส่วน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการภาระหนี้และปิดบัญชีได้เร็วขึ้นตามความเหมาะสม
ใครเข้าร่วมมาตรการ “จ่าย ปิด จบ” ได้บ้าง?
อ้างอิงจากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ที่สามารถสมัครเข้าร่วมมาตรการ “จ่าย ปิด จบ” ได้ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:
(1) ลูกหนี้บุคคลธรรมดาทุกประเภท ที่มีสถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน (NPL)
(2) มีภาระหนี้รวมดอกเบี้ย ไม่เกิน 5,000 บาท ต่อบัญชี โดยไม่จำกัดประเภทสินเชื่อ (หากเข้าเงื่อนไขสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทุกบัญชี)
ข้อควรรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการ
ลูกหนี้ที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุสามารถเข้าร่วมโครงการได้ไหม
สามารถเข้าร่วมมาตรการได้หากมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด เนื่องจากมาตรการไม่ได้มีข้อจำกัดด้านอายุ
สถาบันการเงินใดเข้าร่วมมาตรการนี้บ้าง
คุณสามารถตรวจสอบรายชื่อเจ้าหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการได้ที่นี่ : https://www.bot.or.th/khunsoo
มีชื่อในเครดิตบูโร (NCB) ต้องกังวลไหม
การมีชื่อในเครดิตบูโรจากการเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้เราช่วย” ไม่ได้เป็นปัญหาเสมอไป เพราะเครดิตบูโรเป็นเพียงผู้รวบรวมข้อมูลเครดิต ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องการกู้ยืม การเข้าร่วมโครงการช่วยให้จัดการหนี้ได้เป็นระบบ และมีประสิทธิภาพหากผู้เข้าร่วมมีวินัยและมีความตั้งใจปลดหนี้ให้ได้จริง รวมถึงสะท้อนให้เห็นความรับผิดชอบในการชำระหนี้ และเมื่อชำระหนี้ครบถ้วน สถานะเครดิตก็จะกลับมาเป็นปกติ ทำให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ตามเดิม
หากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไข สามารถทำอย่างไรได้บ้าง
ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เสนอทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ผ่านเงื่อนไขผ่านทางช่องทางอื่น ดังนี้:
- หากคุณเป็นลูกหนี้รายย่อยที่มีสถานะหนี้เสียจากบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และมีการค้างชำระเกิน 120 วัน คุณสามารถติดต่อ ‘คลินิกแก้หนี้‘ เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างหนี้
- หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการผ่อนชำระหนี้ในรูปแบบอื่น สามารถติดต่อผู้ให้บริการทางการเงินของคุณโดยตรง หรือสมัครผ่านช่องทาง ‘ทางด่วนแก้หนี้‘ เพื่อขอรับการปรับโครงสร้างหนี้ตามความเหมาะสม”
สมัครได้ถึงเมื่อไหร่?
หลังจากที่มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้มีการขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568
สมัครได้ที่ไหน?
- สามารถสมัครและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์: www.bot.or.th/khunsoo
- ติดต่อธนาคารเจ้าหนี้โดยตรง
- โทรสอบถาม: 1213 (ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน)
สรุปบทความ
โครงการ “คุณสู้เราช่วย” เป็นโอกาสดีสำหรับคนที่มีหนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า, อาชีพอิสระ, หรือมนุษย์เงินเดือน ที่ยังอยากไปต่อ โครงการนี้ช่วยลดภาระหนี้, รักษาทรัพย์สิน, และช่วยให้เรากลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง
สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน เพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้น FINNIX มีสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ จุดเด่นคือ “เอกสารน้อย, อนุมัติไว, ผ่อนจ่ายตามกำลัง” สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้เลย!
(*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | ดอกเบี้ย 33% ต่อปี)