หลายคนฝันอยากมีธุรกิจของตัวเอง แต่ก็ติดปัญหาว่าจะเริ่มต้นอย่างไร? จะทำอะไรดี? การตลาดและการสร้างแบรนด์ก็ดูเป็นเรื่องยาก ทำให้การลงทุนกับ “แฟรนไชส์” เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คุณไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่ต้องสร้างแบรนด์เอง และไม่ต้องปวดหัวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ หากคุณกำลังมองหาทางลัดสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ แฟรนไชส์น่าลงทุนในปี 2568 พร้อมจุดเด่น งบประมาณ และข้อมูลที่คุณควรรู้ เพื่อให้ได้ธุรกิจที่ตอบโจทย์คุณที่สุด
14 แฟรนไชส์น่าลงทุน 2568 งบน้อยก็ลงทุนได้
ปัจจุบันในตลาด เต็มไปด้วยแฟรนไชส์มากมายให้เลือก อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราได้รวบรวม 14 แฟรนไชส์น่าลงทุนที่โดดเด่น มีศักยภาพ และเป็นที่นิยม พร้อมข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุน
1. ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิด
แฟรนไชส์อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ในวงการลูกชิ้น โดยเฉพาะการนำเสนอ “ลูกชิ้นปลาระเบิด” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านความกรอบนอกนุ่มใน และน้ำจิ้มรสเด็ดที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำและแตกต่างจากลูกชิ้นปลาทอดทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนน้อยและมีเมนูที่ชัดเจน แต่ต้องเน้นปริมาณการขายและการควบคุมคุณภาพน้ำจิ้มให้ดี.
งบประมาณ: เริ่มต้น 3,900 บาท (โดยแพ็คเกจเริ่มต้นมีค่าแฟรนไชส์ 3,900 บาท หรือซุ้มมาตรฐานในราคาเพียง 54,990 บาท)
2. ชายสี่ หมี่เกี๊ยว
ชายสี่ หมี่เกี๊ยว คือแฟรนไชส์บะหมี่เกี๊ยวที่นำเสนอโมเดลธุรกิจที่ลงทุนง่าย เหมาะทั้งสำหรับงานหลักหรืออาชีพเสริม ด้วยเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ชายสี่ได้รับการยอมรับในฐานะ “เจ้าตลาด” ของบะหมี่เกี๊ยวรถเข็น ซึ่งตอกย้ำถึงความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและระบบบริหารจัดการแฟรนไชส์ที่ได้มาตรฐาน จุดเด่นที่สำคัญคือวัตถุดิบคุณภาพสูงที่ส่งตรงจากโรงงานในราคาประหยัด พร้อมอุปกรณ์ขายครบชุดที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเปิดร้านได้ทันที รสชาติก๋วยเตี๋ยวอันเป็นเอกลักษณ์ที่คุ้นเคยและถูกปากทุกเพศทุกวัย ทำให้มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น
งบประมาณ: เริ่มต้น 125,000 (จ่ายสดลดอีก 10% เหลือ 112,500 บาท)
3. สเต็กลุงหนวด
สร้างปรากฏการณ์แฟรนไชส์สเต๊กที่แตกต่าง ด้วยการนำเสนอ “สเต๊กริมทางราคาประหยัด” ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางและยั่งยืน การมีสาขาจำนวนมหาศาลและการเป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดสเต๊กที่เน้นความคุ้มค่า ทำให้แบรนด์แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ การบริหารจัดการที่เข้าใจง่าย เน้นการขายปริมาณมาก ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มราคา แม้การแข่งขันจะสูง แต่ด้วยชื่อเสียงและโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้สเต็กลุงหนวดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาธุรกิจอาหารที่เข้าถึงง่ายและมีศักยภาพ.
งบประมาณ: 100,000 – 200,000 บาท (รวมค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า 30,000 บาท และค่าลงทุนเปิดร้าน ซึ่งอาจรวมค่าเช่าที่ โต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่างๆ)
4. ไก่ย่าง 5 ดาว
ไก่ย่าง 5 ดาว มีจุดเด่นที่ความน่าเชื่อถือในฐานะแบรนด์ของกลุ่ม CP ซึ่งเป็นผู้นำด้านอาหารและเกษตรอุตสาหกรรมของประเทศไทย ทำให้มั่นใจในคุณภาพวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานสูง และระบบการบริหารจัดการแฟรนไชส์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงการสนับสนุนด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเสริมความมั่นคงให้กับผู้ลงทุน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการธุรกิจที่มีแบรนด์ระดับประเทศรองรับ และมีสินค้าที่หลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภค.
งบประมาณ: 180,000 – 236,000 บาท (โดยมีค่าแฟรนไชส์ 6,000 บาท และงบการลงทุนเริ่มต้น 180,000 บาท ขึ้นอยู่กับโมเดลร้าน ยังไม่รวมยอดซื้อสินค้าและวัตถุดิบเข้าร้าน ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายเดือนแรกสูงขึ้น)
5. มารุวาฟเฟิล
มารุวาฟเฟิลโดดเด่นด้วยแบรนด์ที่ชัดเจนและเป็นที่รู้จัก จากการออกแบบที่น่ารัก โดดเด่น และทันสมัย ซึ่งดึงดูดสายตาผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม หัวใจสำคัญคือวาฟเฟิลแสนอร่อยที่มาพร้อมกับความกรอบนอกนุ่มในอันเป็นเอกลักษณ์ ถ่ายรูปสวย ชวนให้ซื้อรับประทานอย่างยิ่ง แฟรนไชส์นำเสนอแพ็คเกจที่ลงทุนน้อย และมีระบบการทำที่ง่ายต่อการเรียนรู้ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถรักษามาตรฐานความอร่อยและหน้าตาของขนมได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการธุรกิจขนาดเล็กที่บริหารจัดการง่าย และมีเมนูที่คุ้นเคยพร้อมจุดขายที่แข็งแกร่งในตลาด.
งบประมาณ: 43,000 – 66,000 บาท (ค่าแฟรนไชส์ 43,000 บาท หากต้องการเมนูเครื่องดื่มด้วยจะมีแพ็กเกจเสริมราคา 23,000-33,000 บาท ซึ่งอาจยังไม่รวมค่าบูธ/ก่อสร้างตกแต่งร้าน)
6. ชาพะยอม
ชาพะยอม สร้างชื่อเสียงจากการเป็นแฟรนไชส์ชาที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีจำนวนสาขาเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศ ซึ่งแสดงถึงความสำเร็จในการตอบรับของผู้บริโภคต่อรสชาติชาไทยที่เข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ และราคาที่เข้าถึงได้ง่าย การลงทุนที่ไม่สูงมากในรูปแบบคีออสก์ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่มที่มีแบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แม้ตลาดชาจะมีคู่แข่งมาก แต่ชาพะยอมก็ยังคงรักษาฐานลูกค้าและเป็นที่นิยม.
งบประมาณ: แฟรนไชส์ลดพิเศษเหลือเพียง 65,000 บาทเท่านั้น สอนสูตร+รับของแถมพร้อมเปิดร้าน (ไม่รวมซุ้ม) จากราคาปกติ 100,000 บาท
7. Flash Home
Flash Home นำเสนอโอกาสทางธุรกิจที่สอดรับกับกระแสอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบัน โดยเป็นแฟรนไชส์ตัวแทนรับพัสดุภายใต้แบรนด์ Flash Express ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งพัสดุชั้นนำและได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการและผู้บริโภคทั่วประเทศ การจัดการที่ได้มาตรฐาน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์หลักที่แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจบริการที่มีแนวโน้มเติบโตสูงและมีระบบรองรับที่ดีเยี่ยมจากบริษัทแม่ แม้การแข่งขันในตลาดขนส่งจะสูง แต่ด้วยชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของ Flash Express ทำให้ Flash Home เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาธุรกิจที่มีความมั่นคงและโอกาสในการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ.
งบประมาณ: เริ่มต้นที่ 1,000 บาท พร้อมรับอุปกรณ์เปิดร้าน
8. อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลาเยาวราช
อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลาเยาวราช โดดเด่นในฐานะแฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาในตำนานกว่า 90 ปี ที่สืบทอดสูตรภัตตาคารเยาวราชแท้ๆ ทำให้ได้ลูกชิ้นปลาที่เนื้อแน่น เด้งกรอบ อร่อยไม่เหมือนใคร จุดแข็งคือเนื้อปลาเกรดดี ให้รสชาติเข้มข้นของปลาทะเลแท้ๆ ทอดแล้วนุ่มใน ไม่เหนียว ไม่คาว การันตีคุณภาพด้วยการรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ไม่มีการหักยอดขายและไม่มีค่ารายปีรายเดือน กำไรเท่าตัว เงินมากเงินน้อยก็สามารถเริ่มธุรกิจได้
งบประมาณ: เริ่มต้นที่ 2,990
9. สุกี้นายพัน
สุกี้นายพันโดดเด่นด้วยรสชาติสุกี้และซอสที่เข้มข้น กลมกล่อม ไม่เหมือนใคร การบริหารจัดการร้านก็ง่าย และผู้ลงทุนสบายใจได้เพราะไม่มีการเก็บค่าส่วนแบ่งตลาดใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้แบรนด์นี้มีกำไรสูงและคืนทุนได้รวดเร็ว แฟรนไชส์มอบความรู้ครบวงจรด้วยการสอนสูตรสุกี้ทุกเมนู (หมู ไก่ ทะเล) อย่างมืออาชีพ พร้อมคลิปวิดีโอคู่มือสอนแบบ Step-by-Step และมีหลากหลายเมนูตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วน สุกี้นายพันจึงเป็นธุรกิจร้านอาหารที่น่าสนใจ ด้วยจุดแข็งด้านรสชาติ ระบบจัดการที่ดี และการสนับสนุนที่ครบวงจร.
งบประมาณ: 9,900 – 150,000 บาท (ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 9,900 บาท แต่การลงทุนเปิดร้านอาจสูงขึ้นตามขนาดและรูปแบบ)
10. Cheesy Fried Snacks
Cheesy Fried Snacks นำเสนอด้วยรูปแบบของทานเล่นสุดฮิตที่วัยรุ่นต้องหลงรัก ด้วย เฟรนช์ฟรายส์เกรด A จากอเมริกา ที่ทอดแล้วกรอบนอกนุ่มใน เนื้อสัมผัสมันฝรั่งเต็มรสชาติ ผสานกับจุดเด่นสำคัญคือ ซอสชีสสูตรเข้มข้น ไม่เลี่ยน ที่ใช้ชีสนำเข้าจากนิวซีแลนด์ (นมวัวแท้ คุณภาพสูง) รับประกันความอร่อยกลมกล่อมจากการการันตีของเพจชื่อดังมากมาย นอกจากนี้ยังมีผงรสซิกเนเจอร์สูตรเฉพาะของ Cheesy Fried Snacks ที่หอมอร่อย ไม่เหมือนใคร และมีรสอมเผ็ดนิดๆ เป็นเอกลักษณ์ แบรนด์นี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาของทานเล่นที่อร่อย น่ารัก ทันสมัย ถ่ายรูปสวย ชวนให้ซื้อรับประทาน และมีหลากหลายรสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสไปซี่ชีส วาซาบิชีส หรือเชดด้าชีสสูตรเข้มข้น.
งบประมาณ: ราคาเริ่มต้น 28,000 บาท
11. Yoguruto
Yoguruto คือแฟรนไชส์ที่ตอบรับกระแสรักสุขภาพได้อย่างลงตัว ด้วยโยเกิร์ตปั่นสดสไตล์ญี่ปุ่นที่ครองใจคนรุ่นใหม่และผู้รักสุขภาพทั่วโลก จุดเด่นคือการปั่นสดใหม่แก้วต่อแก้ว พร้อมเสริมด้วยผลไม้แท้และท็อปปิ้งหลากหลายที่เลือกได้ตามชอบ ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ เน้นความอร่อยเป็นหลัก แต่ก็ยังคงคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ ทำให้ Yoguruto เป็นเครื่องดื่มที่ครบครัน ทั้งอร่อย มีประโยชน์ และทันสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่กำลังเป็นเทรนด์และมีฐานลูกค้ากว้างขวาง.
งบประมาณ: เริ่มต้น 125,000 บาท
12. ไผ่ทอง (ไอศกรีม)
ไผ่ทอง ไอสครีม คือไอศกรีมโบราณในตำนานที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานกว่า 70 ปี ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นที่รักของคนทุกเพศทุกวัย แม้จะคุ้นเคยกับ “รถเข็นไอติมไผ่ทอง” ปัจจุบันทางแบรนด์ได้พัฒนาสู่รูปแบบ “ไผ่ทองสเตชัน” ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเริ่มธุรกิจด้วยการเปิดร้านไอศกรีมแบบมีหน้าร้าน หรือรับคำสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ เหมาะสำหรับทำเลใกล้แหล่งชุมชน หรือพื้นที่ที่สามารถจัดส่งถึงบ้านได้ มอบโอกาสการลงทุนในธุรกิจไอศกรีมที่มีชื่อเสียงและปรับตัวเข้ากับยุคสมัย.
งบประมาณ: 54,900 – 75,900 บาท (สำหรับแพ็คเกจไผ่ทองสเตชั่น ชุดมือใหม่สร้างตัว 54,900 บาท และชุดมือโปรโกยเงิน 75,900 บาท)
13. Hop Chafe
Hop Chafe (ฮ็อป ชาเฟ่) เป็นแฟรนไชส์ชาไข่มุกชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและคุณภาพชาที่หอมอร่อยกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย จุดเด่นสำคัญสำหรับผู้ลงทุนคือรูปแบบแฟรนไชส์ที่ไม่มีการเก็บค่ารายเดือน รายปี และไม่มีสัญญาผูกมัด ทำให้เป็นธุรกิจที่น่าสนใจอย่างยิ่งในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ด้วยสาขาที่มากถึง 3,300 แห่งทั่วประเทศ ลูกค้าสามารถเข้าถึงและหาซื้อได้ง่าย รวมถึงบริการเดลิเวอรี่ทุกรูปแบบ ทำให้ Hop Chafe เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ชาไข่มุกที่น่าลงทุน
งบประมาณ: เริ่มต้นที่ 4,999 บาท (สำหรับแพ็คเกจเล็กสุด แต่คาดว่าจะมีแพ็คเกจที่สูงขึ้นสำหรับอุปกรณ์ที่ครบครัน)
14. ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกากหมูสูตรโบราณ
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกากหมูสูตรโบราณนำเสนอแฟรนไชส์ที่โดดเด่นด้วยรสชาติก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่เข้มข้น จัดจ้าน และกลมกล่อมแบบต้นตำรับ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่หาทานยากตามร้านทั่วไป จุดแข็งสำคัญคือการใช้ “กากหมูเจียว” และ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสชาติ “โบราณแท้ๆ” ที่สดใหม่และหอมกรอบ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เพิ่มมิติความอร่อยและเป็นที่จดจำอย่างมาก ทำให้มีฐานลูกค้าจำนวนมากที่ชื่นชอบรสชาติเฉพาะตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจร้านอาหารที่มีเมนูหลักเป็นที่นิยมและมีจุดเด่นด้านรสชาติที่ชัดเจน.
งบประมาณ: 50,000 บาท
สรุปบทความ
การเริ่มต้นธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แม้คุณจะไม่มีประสบการณ์หรือกังวลเรื่องการสร้างแบรนด์ การลงทุนในแฟรนไชส์เป็นทางออกที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม คุณควรเตรียมความพร้อมและวางแผนเรื่องงบประมาณ รวมถึงค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดและเงินทุนหมุนเวียนก่อนเริ่มลงทุนจริง.
หากคุณกำลังมองหาบริการกู้เงินด่วน FINNIX มีบริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ผ่านแอปกู้เงิน ปลอดภัย ถูกกฎหมาย สมัครง่ายเพียงใช้มือถือเครื่องเดียว อนุมัติไวสุดใน 5 นาที หากยืม 1 หมื่นบาทจะคิดดอกเบี้ยเพียงวันละ 9 บาท วงเงินสูงสุด 100,000 บาท เลือกจ่ายได้ตามกำลัง.
(*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว | ดอกเบี้ย 33% ต่อปี)